Kanokwan C. with Her Breast Canner, Migrane, etc
Written by Thanawat ThanachawawatToday I will expose the video interview of Mrs. Kanokwan Chantharueng, from Nongjok, Bangkok, Thailand. She was suffering from breast cancer, migrane, allergy, and more. Let's see how she recovered.
Video Clip
(We're workng hard to accomplish this task. Sorry for inconvenience)
Dialog
"คุณผู้ชมครับ แขกรับเชิญของเรา เพียงแค่โรคเดียวก็ถือว่ามากแล้วสำหรับโรคมะเร็ง แต่แขกรับเชิญของเราครับ ไม่ใช่เพียงแค่โรคเดียว มีโรคมะเร็งเต้านม มีพาหะของธาลัสซีเมีย นะครับ มีโรคที่ผมเห็นแล้วในเอกสารที่ให้มานี่ เยอะมากๆนะครับ ไม่ว่าจะเป็น มดลูกอักเสบ ภูมิแพ้ ไมเกรน กระเพาะอักเสบด้วย เป็นโรคที่ไม่มีใครอยากจะเจอ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม วันนี้แขกรับเชิญอยู่ที่นี่แล้วครับ พบกับเธอได้เลย สวัสดีครับ"
"สวัสดีค่ะ"
"คุณกนกวรรณ จันทะเรือง นั่นเอง นะครับ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วครับ"
"ปีนี้อายุ 36 ปีค่ะ"
"36 ปี หน้าตาสดใสนะ มองแล้วเหมือนกับคนไม่ป่วยเลยนะครับ โกหกรายการเราหรือเปล่า"
"ป่วยค่ะ ป่วยจริงๆ"
"ป่วยจริงๆนะ ที่พูดถึงนี่ ที่ผมพูดไป คือ ไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่เรื่องโม้"
"ไม่ใช่เรื่องโม้ค่ะ เรื่องจริงทุกอย่าง"
"แต่เป็นเรื่องโรคที่อยู่ในตัวเราทั้งหมดเลย"
"ใช่ค่ะ"
"เห็นบอกว่าโรคที่พูดถึงนี้ เดี๋ยวจะขออนุญาตนะครับ เราเข้าไปเจาะประเด็นเลยนะครับว่าโรคที่เป็นนี่ เป็นมาอย่างไรนะครับ เอาโรค โรคตัวไหนเป็นมาก่อนครับ ที่พูดถึงนี้นะครับ"
"ต่ายเป็นโรคเลือดมาก่อน และก็มดลูกอักเสบมาก่อน"
"เลือดก็คือพาหะของธาลัสซีเมีย"
"ใช่ค่ะ แต่เป็นเลือดไม่ดี"
"เลือดไม่ดี สามารถที่จะถ่ายทอดทางพันธุกรรมถึงลูกหลานได้"
"ใช่ค่ะ เพราะว่ามันจะส่งทุกอย่างในร่างกายเรา เวลามารอบเดือน มันจะปวดรอบเดือนมาก"
"รอบเดือนนี่ จะหนักมากๆเลย"
"นอนดึกไม่ได้ เครียดไม่ได้"
"ครับ ตัวนี้เป็นมากี่ปีแล้วครับ พาหะของธาลัสซีเมีย เป็นโรคเลือดจางนี่"
"ต่ายไม่รู้ว่าเป็นมากี่ปี แต่ว่ารู้สึกว่าเวลาตัวเองนอนน้อย ตัวเองจะเหนื่อย หายใจไม่ค่อยเต็มที่ ชีพจรจะเต้นต่ำ"
"ครับ"
"แต่ว่าคุณหมอตรวจเจอตอนประมาณ 6 ปีที่แล้ว"
"ประมาณ 6 ปีที่แล้ว 6 ปีที่แล้ว เพิ่งจะมาตรวจเจอนะครับ แล้วมดลูกอักเสบอยู่ในสภาวะช่วงเดียวมั๊ย"
"ไม่ ต่ายเป็นมดลูกอักเสบมาตั้งแต่ต่ายเริ่มมารอบเดือน"
"อ๋อ...ตั้งแต่อายุยังน้อยเลย"
"อายุยังน้อยๆ"
"แล้วก็คือมดลูกอักเสบ มีปัญหามาตลอด"
"มาตลอด จะปวดท้อง แล้วมดลูกอยู่ต่ำด้วย คุณหมอบอก เวลายกของหนัก มันเหมือนก้นเราจะหลุดออก"
"ครับ อึม...ทำงานหนักไม่ได้"
"มันยกของหนักไม่ได้ ตกขาวเยอะ เวลามารอบเดือน มันจะปวดมากๆเลย ต้องกินอะไรที่แบบ ให้มันไปละลายก้อนอะไรเนี่ย"
"แล้วภูมิแพ้ละครับ เป็นมาเมื่อไหร่"
"ภูมิแพ้ ต่ายเป็นมาช่วงที่ต่าย ประมาณ 10 ปีให้หลังมานี่ละค่ะ"
"10 ปีให้หลัง ไมเกรน แล้วก็โรคกระเพาะ ตามมาอีก"
"ค่ะ โรคกระเพาะ"
"มองดูแล้ว ไมเกรน ก็คือสภาวะของเราเครียดด้วยหรือเปล่า เลยเกิดปัญหาในเรื่องของไมเกรน"
"เครียด โรคต่างๆ เวลาต่ายเป็นคนที่ไม่ชอบไปหาหมอ เวลาต่ายเป็นอะไร ต่ายจะเก็บไว้"
"ซื้อยามาทานเองเลย"
"บางทีก็ไม่กินยาเลย"
"ปล่อยให้เวลามันล่วงเลยไป"
"ปล่อยให้เวลา ถ้ามันเวลาปวดหัวมากๆ ก็คือคิดว่า มันไม่เป็นอะไรมาก ก็คือปล่อยให้เวลามันผ่านไป"
"ปล่อยให้ผ่านไป เดี๋ยวมันจะดีขึ้นเอง"
"มันก็คงจะหาย พาราเม็ดนึง ก็คงจะเอาอยู่อะไรยังงี้"
"เข้าใจตัวเองอย่างงั้นเลย"
"ใช่ พอนานๆไป มันจะชักจะเป็นเยอะแล้ว"
"รวมในเรื่องของกระเพาะ ไม่ใช่กระเพาะธรรมดา แต่เป็นกระเพาะอักเสบ"
"ใช่"
"เป็นขนาดไหนครับ"
"ปวด ปวดจนแบบต้องฉีดยาแก้ปวดเข้าไป"
"โอ้โห..ขนาดนั้นเลยเหรอ"
"จนแบบเวลาหายปวดแล้วมันจะไม่มีแรงเลย เรี่ยวแรงมันจะตกไปเลย"
"โรคนี้เป็นมากี่ปีแล้วครับ"
"เป็นมานานแล้ว เป็นมาแบบว่า เวลาปวดทีนึง ท้องมันแบบ....ข้างใน"
"เท่าที่พูดถึงนี่ คือระบบภายในทั้งนั้นเลยนะครับ"
"ใช่ค่ะ"
"และโรคที่ไม่มีใครอยากจะเจอ และไม่มีใครอยากจะเป็นนะครับ แต่วันนี้เธอแบกโรคนี้ด้วยก็คือมะเร็งเต้านม"
"ใช่ค่ะ"
"เป็นเมื่อไหร่"
"ต่ายมารู้ตอนที่เป็นประมาณ ตุลาคม ปี 2553"
"ตุลา ปี 53 นี่เอง"
"วันที่ 27 ไปผ่าตัดเอาซีสต์ออก คิดว่าพ่อแม่ก็ไม่ได้เป็นโรคมะเร็ง ตัวเองก็ออกกำลังกายตลอด อาทิตย์นึง 3 วัน ต่ายจะต้องขึ้นห้องฟิสเนสแล้วก็ออกกำลังกาย"
"มันน่าจะไม่โรคภัยเข้ามา"
"ใช่ แล้วเราก็เป็นคนที่ดูแลเรื่องอาหารการกิน"
"ดีมากๆเลย"
"หนังสือเรื่องมะเร็งนี่ คิดว่า ฉันไม่อ่าน ฉันไม่เป็นแน่นอน"
"เป็นเรื่องไกลตัว"
"เป็นเรื่องไกลตัวมาก"
"อึม"
"ใช่ค่ะ"
"นี่คือเหมือนกับทุกคนที่พูดนะครับ เหมือนกับทุกคนที่เคยเจอ เพราะว่า เจอหนังสือเกี่ยวกับประมาณนี้ จะบอกว่า มันคงไม่ใช่ฉัน เพราะว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมากๆเลย"
"ใช่ เป็นเรื่องไกลตัวมาก"
"ในตัวเรา นี่คือเหมือน.."
"ก็ขนาดวันที่ผ่าตัด คุณหมอบอกว่า ไม่น่าเป็นเนื้อร้าย โอ๊ย.. "
"ดีใจ"
"ลางานไปผ่าแค่ 3 วัน"
"เดี๋ยวก่อน ตอนแรกที่ผ่าตัดนี่ เป็นซีสต์ใช่มั๊ย"
"เป็นซีสต์ แล้วก็ลางานกับหัวหน้าแค่ 3 วัน เดี๋ยวหนูก็มาทำงานแล้วเน้อ"
"แสดงว่า น่าจะซีสต์ธรรมดา แล้งยังไงถึงมารู้ว่าเป็นมะเร็ง"
"อีก 7 วัน คุณหมอเอาก้อนเนื้อไปตรวจ แล้วคุณหมอก็นัดไปฟังผล คุณหมอถามว่ามีญาติมามั๊ย ทำไมต้องถามหาญาติเรา"
"7 วันนัดไปตรวจอีกทีหนึ่ง ไปดูผลของก้อนเนื้อที่เขาเอาไปตรวจนี่แหละ"
"เขาผ่าค่ะ"
"ว่าเป็นเนื้อร้ายมั๊ย"
"ใช่ค่ะ"
"พอปรากฏว่า ผลออกมา...."
"ปรากฏว่า คุณหมอถามหาญาติ ชักจะใจคอไม่ดีแล้ว"
"อึม"
"บอกไม่มีญาติค่ะคุณหมอ มาคนเดียว พอดีก้อนเนื้อนั้นน่ะ มันกลายแล้วนะ กลายอะไรคะ กลายเป็นมะเร็ง ก็ร้องไห้ออกจากโรงพยาบาลเลย"
"โอ้โห..นั่นคือชีวิตของสุภาพสตรีตัวน้อยๆเนี่ย นะครับ ปฏิเสธตัวเองตลอดเวลาว่ามะเร็งคงจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรา แต่ตอนนี้มันอยู่ในตัวเราแล้ว ทำใจได้มั๊ย"
"รับไม่ได้ค่ะ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น แล้วหนึ่งเราอยู่คนเดียว พ่อแม่ก็มาดูเราไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไงถ้าเราเป็น เราต้องตายแน่ๆ คิดแต่ว่าฉันจะต้องตายแล้วเหรอ อะไรอย่างงี้"
"ชีวิตฉันคงไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะมะเร็งส่วนมากแล้ว ก็จะรู้ว่า มันคือ"
"แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นระยะไหน"
"ครับ"
"แต่รู้ว่าฉันจะตายแน่แล้วเหรอ อะไรอย่างงี้"
"แล้วตอนนั้นทำยังไง เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง"
"ก็คือ ก็กลับมา ตั้งสติยังไม่ได้"
"ครับ"
"โทรหาแม่ โทรหาพ่อ หนูเป็นมะเร็งนะ"
"ครับ"
"แม่ก็บอก ลาออกจากงานเลยลูก มาอยู่กับแม่"
"อืม..ให้กลับไปอยู่บ้าน ตอนนั้นเราทำยังไงครับ จิตใจเป็นยังไง ไม่อยาก"
"ร้องไห้ทั้งคืน นอนไม่ได้ ร้องไห้ เครียด"
"รับได้มั๊ย กับข่าว"
"ใช่ค่ะ หนูเครียดมาก แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ประมาณวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 หมอนัดไปผ่าตัดเต้านมออก เพราะคุณหมอบอกว่า ถ้าไปโดนแล้ว มันจะซึมเข้ากระแสเลือด"
"มันจะกระจาย"
"ใช่ค่ะ"
"คราวนี้ก็เลยไปตามที่คุณหมอนัด ก็เลยไปตัด"
"ไปตัดออก ประมาณวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553"
"3 พฤศจิกายน 2553 ก็ยังไม่กี่เดือนนี่เอง แล้วดูแลตัวเอง รักษาตัวเองยังไงครับ ให้คีโมด้วยมั๊ย"
"ใช่ค่ะ คุณหมอบอกว่า ต้องให้คีโมทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกัน เริ่มให้ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2553"
"ครับ"
"6 ครั้ง แล้วทีนี้ แต่ก็คือตอนนั้น ก็คือผ่าตัดเสร็จ ทีนี้ก็.."
"ปลายเดือนพฤศจิกายน 2553 มาให้คีโม"
"ประมาณเกือบปลายเดือนพฤศจิกายน 2553 ต้นเดือนธันวาคม 2553"
"ครับ ต้นธันวา"
"อาหารที่ต่ายกินเพื่อดูแลตัวเอง ก็จะมี วิตามินซี กระปุกละประมาณ 500 บาท วิตามินอี กระปุกละประมาณ 500 บาท น้ำมันจมูกข้าว แล้วก็ยาสมุนไพรอะไรอย่างอื่นด้วย"
"สมุนไพรอื่นๆ เราก็กินเข้ามา"
"ใช่ค่ะ"
"รวมกันทั้งหมดเลยที่จะให้ตัวเองปรับตัวเองกลับขึ้นมาแข็งแรงได้"
"ใช่ค่ะ เพราะเราต้องดูแลตัวเอง"
"เอ๊ะ..เราก็รักษาด้วยสมุนไพรอื่นๆด้วย ทั้งตัวยาแผนปัจจุบันด้วยเนี่ย ทั้งให้คีโม อาการตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง"
"ให้คีโม ต่ายนึกว่าต่ายจะตาย เพราะว่าคีโมมันร้ายขนาดนี้นี่เอง ถึงคีโมเขาบอกว่า ไม่ต้องไปให้คีโมนะ เพราะว่ามีคนมาทัก แต่ไม่ต้องให้คีโม แต่วันนั้นต่ายไม่รู้จะทำยังไง ต่ายก็ปรึกษากับพยาบาลว่าต่ายจะให้ดีมั๊ย คุณพยาบาลบอกว่า คุณจะไปต่อสู้โรคด้วยลำพังตัวคุณเองเหรอ คุณอายุยังน้อย คุณให้คีโมไปเถอะ"
"ครับ"
"ต่ายก็เลยตัดสินใจให้คีโม ให้ไปครั้งที่ 1 นี่ ทานอาหารไม่ได้เลย"
"ไม่ได้เลย"
"กินอะไรก็ไม่ได้ เหม็น แล้วก็...ต้องเอามือปิดจมูกค่ะ"
"เพราะ.."
"เพราะว่ามันเหม็น แลัวมันกินไม่ได้ ถ้าเรากินไม่ได้ เราต้องตาย เพราะว่าเซลล์"
"อ้วก.."
"ใช่ อ้วก อาเจียน ทั้งคืน หูตาฝ้าฟาง สมองไม่สั่งงาน มือแขนชาหมด"
"ตอนนั้น คือหมดทุกอย่างแล้วในชีวิต"
"หมดทุกอย่างแล้ว ความรู้สึกของเรา อาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วย ก็คือว่าฉันไม่รอดแน่ๆ"
"นี่คือให้คีโมครั้งแรก"
"ใช่ คีโมครั้งแรกด้วย แล้วผมก็ร่วง ผมร่วงหมดเลย คุณหมอถาม คุณหมอบอกว่า เราเป็นคนรักสวยรักงาม ถามคุณหมอว่าผมมันจะร่วงตอนไหน คุณหมอบอกประมาณเข็มที่ 2 แต่ว่าอาทิตย์แรกที่ให้มันก็ร่วงแล้ว"
"ร่วงเลย ก็เลยทำให้ตัวเราเองนี่คือ..."
"เพราะเลือดหนูไม่ดีอยู่แล้วไง ไม่มีภูมิต้านทาน"
"มันยิ่งไปได้เร็ว"
"ค่ะ"
"หลังจากให้คีโม เข็มที่ 1 เข็มที่ 2 ตอนนี้ก็ผ่านจากตรงนั้นมาจนถึงวันนี้เนี่ย ให้คีโมไปกี่ครั้งแล้วครับ"
"ครบ 6 ครั้ง เมื่อประมาณสงกรานต์ค่ะ"
"ครับ แล้วมารู้จักยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม ได้ยังไง"
"ก็ตอนนั้น ต่ายให้คีโมมาเข็มที่ 3 แต่คุณหมอบอกว่าให้ไม่ผ่าน เกล็ดเลือดคุณต่ำมาก"
"ให้คีโมครั้งที่ 3 ไม่ผ่าน"
"ไม่ผ่าน"
"เกล็ดเลือดนี้ต่ำเลย"
"คุณหมอบอกกลับมาโดปใหม่นะ"
"โดปคือทำยังไงครับ"
"โดป กินอาหาร กินเยอะๆ"
"ให้ได้อาหารที่มี..."
"อารมณ์ให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ"
"ให้เยอะที่สุด อารมณ์ ให้ได้ ต้องพักผ่อนให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้ร่างกายกลับมาแข็งแรง"
"ให้เกล็ดเลือดขาวมันสูงให้ได้"
"ครั้งที่ 3 กลับมา มาโดปต่อ"
"ใช่ค่ะ หลังจากนั้น"
"แล้วยังไงต่อครับ"
"ก็มีพี่คนนึงเขาฝาก เขารู้ว่าต่ายเป็นมะเร็ง เค้าก็เลยฝาก ยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม มาให้ต่ายทาน"
"ส่งอันนี้ไปให้ที่บ้านครับ"
"พี่คนนี้ละค่ะ ฝากมาให้ต่าย แล้วทีนี้ ต่ายก็ไม่กินนะ ต่ายก็เอามามองดู ว่าเอ๊ะ ยาหมอณรงค์ ไม่เห็นว่าเคยได้ยินเลย"
"อืม"
"หมออะไรโนเนม"
"ครับ"
"ไม่เคยได้ยิน ทีนี้ต่ายก็เอาไปตั้งไว้ในห้อง ใครอยากจะกินก็กิน ก็ว่ายังงี้ แต่ต่ายไปทานสมุนไพรตัวอื่นอยู่ ต่ายซื้อมา 8 ขวด เลย ขวดละ 1,200 บาท"
"ครับ ทีนี้ก็ดื่มตัวนั้นอยู่"
"ดื่มตัวนั้นอยู่ ทีนี่เค้าบอกว่า ถ้ามากินตัวนี้ มันกินยาตัวนั้นไม่ได้ มันจะตีกัน ทีนี่ไอ้ 8 ขวดนั่นมันหมด ต่ายก็เลยไม่มีตังส์จะซื้อใหม่"
"ครับ"
"ก็เลย เอ๊ะทำไม เรามีของฟรีอยู่ขวดนึง ทำไมเราไม่เอามากิน"
"ทำไมไม่ลอง"
"ใช่ ทำไมไม่ลอง"
"ก็เลยเอาไปลอง"
"ก็เลยเอามาลอง พอดี ลองแล้ว ประมาณ 3 วัน ก็ไปให้คีโม คุณหมอบอกว่า อืม เกล็ดเลือดดี ความดันก็ไม่ตกนะ"
"ตอนที่กินตัวอื่น คือสมุนไพรเหมือนกัน 8 ขวด แต่อย่างอื่นยังไม่ดี"
"ยังไม่ดีขึ้น คือร่างกายยังไม่ดีขึ้น"
"แต่ว่าดื่มตัวนี้ไปเพียงแค่ 3 วัน เกล็ดเลือดกลับคืนมาดี"
"เกล็ดเลือดกลับคืนมาดี แต่ว่า แต่เราก็ไม่คิดว่ามันเป็นเพราะยาตัวนี้ เป็นเพราะเราทานอาหารมากกว่า"
"เพราะเรากำลังบำรุงร่างกายตัวเองอยู่ คราวนี้เวลาครั้งที่ 3 ไปตรวจแล้ว เกล็ดเลือดดี แล้วก็ให้คีโม ปรากฏว่าผ่านมั๊ย"
"ผ่าน แล้วก็ภูมิต้านทานก็ดี ความดันก็ไม่ตก ทั้งที่นอนแค่ 3 ชั่วโมงเองนะ"
"ตอนนั้นใช่มั๊ย"
"ใช่"
"ตอนครั้งที่ 3"
"ใช่ ครั้งที่ 3"
"และมามั่นใจว่ามันใช่ ยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม ตอนไหน ตอนที่คิดว่ามันใช่แล้วละ กินแล้วมันดีเพราะตัวนี้"
"มันดีเพราะตัวนี้ก็คือว่า หลังจากที่กินไปแล้ว มันมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย กะว่าจะหยุดกินแล้วนะ"
"ครับ"
"ไม่ได้คิดว่าที่ตัวเอง ที่มีภูมิต้านอะไรดี ไม่ใช่เป็นเพราะยา"
"ครับ ก็คิดว่า น่าจะเป็นการบำรุงร่างกาย"
"ค่ะ"
"กี่วันอาการดีขึ้น หลังจากที่เราเมื่อย เราปวด เป็นโน่นเป็นนี่ขึ้นมา"
"ก็ประมาณอาทิตย์นึง"
"ประมาณอาทิตย์นึง"
"แต่จะหยุดกินแล้ว พอดีพี่ใหญ่ คนที่เค้าแนะนำ เค้ามาหาที่บ้านวันที่ต่ายจะหยุดกินพอดี"
"เค้าแนะนำให้ทานต่อ"
"เค้าชวนต่ายมาบริษัท พอดีต่ายมาเจอคุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิงาม พอดีเลย ต่ายก็เลย..."
"จังหวะนั้นพอดี"
"ก็เลย ใช่ค่ะ ก็เลยซื้อไปอีก 2 ขวด"
"ซื้อไปอีก เสร็จแล้ว หลังจากที่เราดื่ม ที่เราทาน ตั้งแต่วันโน้น ถึงวันนี้ ร่างกายของเราเป็นยังไงครับ"
"วันนี้ร่างกายต่ายดีมากๆเลย กับมะเร็งนี่ ยังเหลือตรวจเลือดวันที่ 23 นี่คุณหมอนัดไปตรวจเลือด"
"23 เดือนมิถุนา เดือนนี้นะครับ ที่เราจะไปตรวจผลเลือดว่าเราเป็นยังไงบ้าง แต่ร่างกายวันนี้ ในความรู้สึกของตัวเอง เป็นยังไงบ้าง"
"มดลูกนะค่ะ ตอนที่กินใหม่ๆ ตกขาวออกเยอะมาก"
"ตอนนี้"
"ตอนนี้ หายปวดแล้ว ไม่มีอาการ"
"มดลูก อาการปวดไม่มีเลย"
"ใช่ค่ะ"
"ภูมิแพ้เป็นยังไงบ้างครับ ดีขึ้นมั๊ย"
"แต่ก่อนนี้ เวลาร้อนจัดหนาวจัด ต่ายจะปวดบริเวณโพรงจมูก แล้วก็ภูมิแพ้เวลานั่น มันจะเป็นผื่นทั่วร่างกาย ตอนนี้ต่ายไม่เป็นแล้ว"
"ตอนนี้ไม่มีแล้ว"
"ค่ะ"
"ไมเกรนเป็นยังไงบ้าง"
"ไมเกรนตอนนี้ต่ายไม่ปวดหัวเลย"
"ครับ ไม่มีอาการเลย"
"ใช่ค่ะ"
"กระเพาะอักเสบ เป็นยังไงบ้าง"
"ไม่มีอาการอะไรเลยตอนนี้"
"ไม่มีเลย"
"เหลือแต่มะเร็งอย่างเดียว"
"และตอนนี้มะเร็งอย่างเดียว ที่เรารอตรวจอยู่"
"ใช่ รอผลตรวจเลือด แต่ต่ายมีความมั่นใจว่า ณ ตอนนี้ ร่างกายต่ายแข็งแรงกว่าตอนที่ต่ายไม่ป่วยมาก"
"ขนาดนั้นเลย"
"เพราะว่า..."
"แต่ดูหน้านะ ท่านผู้ชมครับ ดูหน้าน้องต่ายหรือว่าคุณกนกวรรณ จันทะเรือง ของเรานี่นะครับ ดูหน้าเหมือนกับคนไม่ป่วยเลยนะครับ แต่ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ทานทั้งหมดกี่ขวดครับ"
"ทานทั้งหมดแล้วประมาณ 7 ขวด"
"7 ขวดเท่านั้นเอง"
"ค่ะ ตอนนั้นต่ายทานได้ประมาณ หลังจากที่ทานใหม่ๆประมาณ 15 วันเนี่ย ต่ายคิดว่ายาตัวนี้แหละจะช่วยครอบครัวต่ายและก็พี่น้องและก็พ่อต่าย ต่ายก็เลยซื้อกลับไปที่มหาสารคามให้พ่อ"
"เห็นบอกว่าครอบครัวทั้งหมดเลยมีปัญหาในเรื่องของโรคหนักๆ"
"ใช่ค่ะ โรคหนักๆทั้งนั้นเลย"
"มีอะไรบ้าง"
"ต่ายมีน้องชาย 2 คน ตอนที่ต่ายป่วยเป็นมะเร็ง ผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ต่ายได้ข่าวว่าน้องชายต่ายก็เข้าโรงพยาบาลเหมือนกัน ต่ายถามว่าเป็นอะไร"
"น้องชายเป็น..."
"บอกว่า ปวดท้องกระทันหัน ก็เลย พี่ไปเยี่ยมไม่ได้หรอกนะ แล้วมาทราบอีกที คุณหมอว่าน้องชายเป็นมะเร็งเหมือนกัน"
"มะเร็งเหมือนกัน อื้อหือ...นี่คือเป็นมะเร็งที่ไหนครับ"
"มะเร็งลำไส้ค่ะ ส่วนน้องชายคนรองเนี่ย คุณหมอไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร คือไปหาหมอทั่วเมืองมหาสารคาม คุณหมอไม่สามารถระบุโรคได้"
"ครับ เค้ามีอาการยังไงครับ"
"ผมร่วง ผอม เหมือนคนเป็นโรคเอดส์ แล้วมีแต่ซี่โครง"
"ไปตรวจมีเชื้อมั๊ย เจอมั๊ย"
"ไม่เจอค่ะ"
"ไม่รู้เป็นโรคอะไร"
"ไม่เจอโรคอะไรเลย"
"น้องชายคนแรกเป็นมะเร็งลำไส้ คนที่ 2 เป็นผอมแห้งแรงน้อย"
"ทำงานไม่ได้"
"แต่หาเชื้อไม่เจอ แล้วมีใครเป็นอะไรอีกครับ"
"แล้วคุณพ่อเป็นไตระยะสุดท้าย"
"คุณพ่อเป็นไตระยะสุดท้าย"
"ตัดไตทิ้งตั้งแต่ปี 2540 แล้วทุกวันนี้ก็ฟอกไตวันละ 4 ครั้ง ก่อนหน้าที่ต่ายจะป่วยเป็นมะเร็งนี่ คุณพ่อเรียกต่ายไปสั่งเสียแล้ว คือผิวหน้าผิวหนังแกเหี่ยวหมดแล้ว คือทำใจเถอะนะต่ายนะ พ่อคงอยู่กับต่ายได้อีกไม่นาน หนู่ก็เลยบอกพ่อไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดถึงทางไปนิพพานอย่างเดียวเลย"
"ให้กำลังใจ"
"ใช่ คุณแม่ก็ถูกงูกัด"
"คุณพ่อเป็นไตขั้นสุดท้าย ตัดทิ้งแล้ว แล้วก็ล้างวันละ 4 ครั้ง แล้วคุณแม่มาเป็น.."
"คุณแม่ถูกงูกัด ก่อนที่ต่ายจะป่วยเป็นมะเร็ง"
"งูกัด ก่อนป่วยเป็นมะเร็ง โอ้โห..มีแต่หนักๆทั้งนั้นนะครับ"
"ค่ะ"
"ท่านผู้ชมครับ แล้วบทสรุปของโรคทั้งหมดนี้ ทุกคนที่ว่านี้ เป็นโรคทั้งหมด"
"ใช่"
"แล้วเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้"
"มันเหมือนครอบครัวต่ายเจอแสงสว่าง ที่มันกำลังนำทางของครอบครัวเราไปสู่ทางที่มัน...ยังไงละ แต่ก็ตั้งแต่ต่ายเจอฮั้วลักเซียม แล้วได้กินฮั้วลักเซียม ต่ายคิดว่า ครอบครัวต่ายรอดแล้วนะ"
"รอดแล้ว"
"พ่อต่ายตอนนี้แข็งแรงมาก"
"จากตัดไตทิ้งแล้ว ไตวายขั้นสุดท้าย ล้างวันละ 4 ครั้ง"
"ตอนนี้พ่อล้างมั่งไม่ล้างมั่ง"
"บางวันก็ล้าง บางวันก็ไม่ล้าง"
"ใช่ค่ะ"
"แล้วน้องชายที่เป็นมะเร็งลำไส้"
"น้องชายที่เป็นมะเร็งลำไส้ เขาทำงานที่บริษัทใกล้ๆกับต่าย เขาทำโอที 3-4 ทุ่มทุกวัน เข้ากะวันนึง มานอนแค่วันละ 3 ชั่วโมง"
"แต่ก่อนนี้ไม่ได้เลย"
"ไม่ได้เลย"
"แล้วน้องชายคนที่เล็กๆ คนที่บอกว่าเป็นโรคที่หาเชื้อไม่เจอ"
"คนที่อยู่มหาสารคามนี่ ตอนนี้เขาเริ่มกินข้าวได้อร่อย เริ่มทำงานได้ เริ่มสุขภาพแข็งแรง มีน้ำมีนวลขึ้น แล้วก็คุณแม่ แผลที่ถูกงูกัด ต่ายเอาสำลีชุบยาฮั้วลักเซียมไปโป๊ะที่แผลเค้า ทุกวันนี้นะ แผลเค้าแห้ง ไม่ได้ไปหาหมอเลย"
"อื้อหือ คุณผู้ชมครับ ตรงนี้คือ เหมือนกับว่า ครอบครัวนี้ครอบครัวที่ฟื้นขึ้นมาเพราะยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม ผิดมั๊ย คำนี้ไม่ผิดนะ"
"ใช่ค่ะ ไม่ผิดค่ะ"
"เอาละท่านผู้ชมครับ เวลาเราน้อยจริงๆ หมดแล้วนะครับ คุณผู้ชมครับ วันนี้ขอบคุณมากๆ สำหรับคุณกนกวรรณ จันทะเรือง ที่มาให้ประสบการณ์กับทางรายการของเรา วันนี้ผมบอกว่าในเรื่องของผู้ป่วยนะครับ เราคงจะไม่มีคำพูด คำอธิบายใดๆแล้วละว่า ชีวิตเขากับชีวิตใหม่
เหมือนได้ชีวิตใหม่ เหมือนได้ชีวิตใหม่จริงๆจากยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม สรุปอย่างนี้ ก็คงจะไม่ผิดนะครับ"
"ใช่ค่ะ"
"วันนี้ขอบคุณมากครับ"
ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม กรุณา
Click to order Hou Luk Seam Online
Hou Luk Seam Order by Phone
080-235-0137
081-131-0137
082-492-0137
Hou Luk Seam Order by Line
id: HouLukSeam
-
Last Updated: 24 June 2017
-
Hits: 810